นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ระบบรัฐสวัสดิการกับอนาคตประเทศไทย” ลั่น พร้อมสนับสนุนระบบดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิ์รับบริการขั้นพื้นฐาน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ที่สถาบันพระปกเกล้า อาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ มีการโครงการบรรยายพิเศษ “การพัฒนารัฐสวัสดิการกับอนาคตประเทศไทย” โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิด และมีนายบวรศักดิ์ อุวรรโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า มาให้การต้อนรับและนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ นายกสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า กล่าวรายงานึงวัตถุประสงค์ของโครงการ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ระบบรัฐสวัสดิการกับอนาคตประเทศไทย” ว่าที่สังคมไทยมีการจัดระบบสวัสดิการมากขึ้นเพื่อความมั่นคงในชีวิตของประชาชนคนไทยซึ่งเป็นหัวใจของการวางรากฐานของสังคม นอกจากจะมีความเป็นธรรมแล้วก็ต้องมีความพร้อมความแข็งแกร่งที่จะเผชิญความท้าทายทุกด้านทั้งสังคมการเมืองและเศรษฐกิจ จะเห็นได้ว่าตลอดเวลาที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและประสบความสำเร็จมากใน 50 ปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในระดัสูงเมื่อเทียบทุกประเทศในโลกและมีเสถียรภาพ ยกเว้นในช่วงสั้นๆที่เกิดวิกฤติการเงินเมื่อปี 2540 และเมื่อสามารถลดสัดส่วนคนยากจนที่มีนิยามรายได้เฉลี่ยต่อปีที่สูงถึงร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 10ของประชากรประเทศ แต่การเหลื่อมล้ำและการกระจายรายได้ก็ไม่ได้ดีขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ถ้ามองความยากจนเรื่องของรายได้ขั้นต่ำว่าเป็นเท่าไรเราอาจจะสำเร็จในแง่ความเป็นอยู่ แต่ความยากจนไม่ได้วัดที่รายได้ระดับใดระดับหนึ่ง แต่ผูกพันความรู้สึกของความศักดิ์ศรีในการอยู่สังคมอย่างมีเสมอภาคเท่าเทียมกัน ซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจของเรายังตอบโจทย์ไม่ได้ เพราะคนที่มีรายได้สูงสุดของประเทศร้อยละ 20 มีส่วนแบ่งรายได้มากกว่าของรายได้กึ่งนึ่งของรายได้ประเทศ ในขณะที่คนที่มีรายได้ต่ำร้อยละ 20 กลับมีส่วนแบ่งรายได้ไม่ถึงร้อยละ 5 และตัวเลขนี้ก็เปลี่ยนแปลงน้อยมากในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา และถ้าจะใช้ตัวชี้วัดที่นักเศรษฐศาสตร์ใช้คือค่าสัมปสิทธิ์จะพบว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ0.48-0.49 มาเป็นระยะเวลาร้อยละ 20 ปี แม้จะไม่สูงมากแต่ว่าสูงกว่าประเทศที่กำลังพัฒนา ดังนั้นปัญหาความยากจนในแง่ความไม่เท่าเทียมและเหลื่อมล้ำต้องได้รับการแก้ไข
“ผมหลีกเลี่ยงการใช้คำว่ารัฐสวัสดิการ เพราะประเทศเรารัฐไม่สามารถแบกรับได้ทั้งหมด ซึ่งประเทศที่มีฐานะดีกว่าเราก็ปวดหัวทั้งนั้น ทั้งยุโรปหรืออเมริกา ดังนั้นถ้ารัฐตัดสินใจแบกแล้วจะต้องเก็บภาษีสูง ก็มีปัญหาเรื่องความสามารถในการแข่งขันและเรื่องของการเลี่ยงภาษี หรือถ้านำาษีมาจ่าย ทั้งที่ในอนาคตโครงสร้างของประชากรปรับไปสู่สังคมผู้สูงอายุ ถ้าคนทำงานต้องเสียภาษีมาจ่ายให้คนสูงอายุ ก็จะทำให้คนทำงานแบกรับมากขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1605 ครั้ง